ความสามารถหลัก
ความสามารถหลัก
ความสามารถหลักของ Hongrita เป็นรากฐานของความได้เปรียบทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมพลาสติก:
- ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยี
- การขึ้นรูปด้วย LSR (ยางซิลิโคนเหลว)
- การขึ้นรูปชิ้นส่วนหลายชิ้น
- ISBM (การฉีด ยืด-เป่าขึ้นรูป)
- โซลูชันเครื่องมือประสิทธิภาพสูง
- การผลิตอัจฉริยะ
ความสามารถหลักของ Hongrita ในด้าน ISBM การขึ้นรูป LSR การขึ้นรูปหลายส่วนประกอบ การทำเครื่องมือ และการผลิตอัจฉริยะ ร่วมกันเสริมสร้างตำแหน่งของบริษัทในฐานะผู้ให้บริการชั้นนำด้านส่วนประกอบและผลิตภัณฑ์พลาสติกที่มีความแม่นยำ ความสามารถเหล่านี้ทำให้ Hongrita สามารถนำเสนอโซลูชันที่สร้างสรรค์และสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การแพทย์ การดูแลสุขภาพ ยานยนต์ และบรรจุภัณฑ์แข็ง ขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นพัฒนาความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีและแนวทางปฏิบัติด้านการจัดการธุรกิจที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง
การฉีดขึ้นรูปชิ้นส่วนหลายชิ้น
อ่านเพิ่มเติมแม่พิมพ์หลายโพรงอากาศ
อ่านเพิ่มเติมการฉีดขึ้นรูป LSR
อ่านเพิ่มเติมการฉีดขึ้นรูปอุปกรณ์ที่มีความแม่นยำ
อ่านเพิ่มเติมห้องปฏิบัติการ
-
การวัดด้วยแสง
- การวัดที่แม่นยำสูง
- การวัดแบบไม่สัมผัส
- การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต
- การควบคุมและปรับปรุงคุณภาพ
- การวิจัยและนวัตกรรมด้านวัสดุใหม่
-
การวัดทางกายภาพ
- การควบคุมคุณภาพ
- การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ
- การวินิจฉัยความผิดพลาด
- การอนุรักษ์ทรัพยากร
-
การทดสอบสิ่งแวดล้อม
- การปฏิบัติตามกฎระเบียบ
- โอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรม
- ความยั่งยืนและการปกป้องสิ่งแวดล้อม
-
การทดสอบความน่าเชื่อถือ
- การตรวจสอบคุณภาพสินค้า
- การป้องกันข้อบกพร่อง
- การประหยัดต้นทุน
- เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
- การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
-
การทดสอบผลิตภัณฑ์ดูแลเด็ก
- การรับประกันความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
- การควบคุมคุณภาพ
- นวัตกรรมและการวิจัยและพัฒนา
-
ห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยา
- สุขอนามัยและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
- การควบคุมกระบวนการผลิต
- การปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรฐาน
- การรับประกันคุณภาพ
- การรับรองด้านสุขภาพและความน่าเชื่อถือ
-
ห้องปฏิบัติการฟิสิกส์และเคมี
- การควบคุมวัตถุดิบ
- การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต
- การทดสอบการทำงานของผลิตภัณฑ์
- การวิเคราะห์และปรับปรุงข้อบกพร่อง
- การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
การผลิตอัจฉริยะ
การประยุกต์ใช้ระบบอัจฉริยะทำให้ Hongrita สามารถจัดการการผลิตแบบอัตโนมัติ การจัดการแบบดิจิทัล และการตัดสินใจโดยใช้ AI ได้ดีขึ้น ส่งผลให้โรงงานมีระดับความชาญฉลาดเพิ่มมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กรและการจัดการคุณภาพ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในอุตสาหกรรม